เมนู

เสียงไพเราะอย่างยิ่ง ก็เพราะนางมีกระแสเสียงที่ไพเราะอย่างยิ่งนั้น. มีคำ
ที่ท่านขยายความว่า นางมีความประพฤติสูงสุด มีกิริยาประเสริฐ ในการรำ
และการร้อง ย่อมรำทำรำที่สูงที่สุด หรือถ้าจะร้อง ก็ร้องแต่เพลงชั้นสูงที่สุด
เท่านั้น. คำที่เหลือในทุกบท มีใจความตื้นทั้งนั้น. ก็และวิปัสสนาแรกเริ่ม
เป็นอันตรัสไว้แล้วในสูตรทั้งสองนี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบอรรถกถาทุติยเสกทกสูตรที่ 10
จบอรรถกถานาฬันทวรรคที่ 2

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. มหาปุริสสูตร 2. นาฬันทสูตร 3. จุนทสูตร 4. เจลสูตร
5. พาหิยสูตร 6. อุตติยสูตร 7. อริยสูตร 8. พรหมสูตร 9. ปฐม-
เสทกสูตร 10. ทุติยเสทกสูตร พร้อมทั้งอรรถกถา.

สีลัฏฐิติวรรคที่ 3



1. สีลสูตร



ว่าด้วยกุศลศีล


[767] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์ และท่านพระภัททะอยู่ ณ กุกกุฏาราม
ใกล้เมืองปาฏลีบุตร. ครั้งนั้น ท่านพระภัททะออกจากที่เร้นในเวลาเย็น
เข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระอานนท์ ครั้นผ่าน
การปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้ว
ได้พูดกะท่านพระอานนท์ว่า
[768] ดูก่อนท่านอานนท์ ศีลที่เป็นกุศลเหล่าใดอันพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสแล้ว ศีลที่เป็นกุศลเหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว มีพระ
ประสงค์อย่างไร.
ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ดีละ ๆ ท่านภัททะ ท่านช่างคิด ช่าง
เฉียบแหลม ช่างไต่ถามเหมาะ ๆ. ก็ท่านถามอย่างนั้นหรือว่า ดูก่อนอานนท์
ศีลที่เป็นกุศลเหล่าใด อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว ศีลที่เป็นกุศลเหล่านี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว มีพระประสงค์อย่างไร.
ภ. อย่างนั้น ท่านผู้มีอายุ.
[769] อา. ดูก่อนท่านภัททะ ศีลที่เป็นกุศลเหล่าใดอันพระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสแล้ว ศีลที่เป็นกุศลเหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว
เพียงเพื่อเจริญสติปัฏฐาน 4. สติปัฏฐาน 4 เป็นไฉน. ภิกษุในธรรมวินัยนี้